เที่ยวเมืองน่าน น่ารัก..น่ารัก
ใกล้หน้าหนาวแล้ว
เที่ยวน่านกันดีกว่า
คำขวัญ ประจำจังหวัดน่าน
แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง
แต่จุดประสงค์หลักของการมาเมืองน่านครั้งนี้คือ....สักการะพระธาตุประจำปีเกิด ปีเถาะคะ นั่นคือพระธาตุแช่แห้ง
วัดพระธาตุแช่แห้ง (พระธาตุประจำปีเกิดปีเถาะ) อยู่ที่ ตำบล ม่วงติ๊ด กิ่งอำเภอ ภูเพียง ห่างจากตัวเมืองน่าน 2 กิโลเมตร พระธาตุแช่แห้ง เป็นปูชนียสถานที่สำคัญมีอายุกว่า 600 ปี พญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากกรุงสุโขทัย องค์พระธาตุมีความสูง 55.5 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละ22.5 เมตร บุด้วยทองเหลืองปิดทองคำเปลวหมดทั้งองค์
แต่จุดประสงค์รองลงมาคือ ชมภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเลื่องชื่อ ปู่ม่าน-ย่าม่าน กระซิบรักบันลือโลก ที่วัดภูมินทร์
มาดูด้วยตาตัวเองจร้าาาาาาาาา
วัดภูมินทร์ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่สมัยเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เมื่อ พ.ศ.2410 (ปลายสมัยรัชกาลที่ 4) ใช้เวลาซ่อม นานถึง 7 ปี จิตรกรรมฝาผนังในวิหารหลวงก็เขียนขึ้นในช่วงนี้ ภาพจิตรกรรมหรือ “ฮูบแต้ม” ในวัดภูมินทร์เป็น ชาดกในพุทธศาสนาแต่ถ้าพิจารณารายละเอียดของวิถีชีวิตของคนเมืองในสมัยนั้น มีภาพที่น่าสนใจอยู่หลายภาพ เช่น ภาพเด่น ของ ภาพปู่ม่าน ย่าม่าน ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ชายผู้หญิงชาวไทลื้อในสมัยโบราณกระซิบสนทนากัน ผู้ชายสักหมึก ผู้หญิง แต่งกายไตลื้ออย่างเต็มยศ ภาพวาดของหนุ่มสาวคู่นี้มีความประณีตมาก ภาพนี้ได้รับการ ยกย่องว่าเป็นภาพที่งามเป็นเยี่ยมของวัดภูมินทร์ มีการใช้สีแดง ฟ้าดำ น้ำตาลเข้มเป็นปื้นใหญ่ๆคล้ายภาพสมัยใหม่ ของหนุ่มสาวไตลื้อกำลัง
เอาหละ...มาเริ่มต้นกับการวางแผนเที่ยวน่านกัน
|
แผนที่การเดินทาง ไป จ.น่าน |
ออกจากกรุงเทพใช้เส้นทางขึ้นเหนือ ใช้ทางออกเข้าสู่ 347/อยุธยา/อ. บางปะหัน/ปทุมธานี/อ่างทอง ตัดเข้าไปยัง ทางหลวงสายเอเชียหมายเลข 1
ตรงยาวเลยคร้าาาาา สิงห์บุรี/ชัยนาท/อุทัยธานี/นครสวรรค์
ถึงตรงนี้ให้แยกขวาใช้ทาง 117 ผ่านอ.เก้าเลี้ยว/สามง่าม/ เข้าสู่พิษณุโลก/
อุตรดิตถ์ อ.เด่นชัย/อ.สูงเม่น/แพร่/น่านนนนนน ง่ะ ถึงแล้วจร้า
ใช้เวลารวมๆ แวะๆ กินๆ แล้วก็ประมาณ 7ชั่วโมง นิดๆ คะ
|
แผนการเที่ยวเมืองน่าน |
นี่คือแผนการเที่ยวของฝนวันนี้ เราเที่ยวแค่ในเมืองนะคะ เพราะมีเวลาแค่วันเดียว
แต่ไม่ต้องกลัวคะ แค่วันเดียวฝนจะพาเที่ยวให้จุใจเลยจร้าาาาาาาา
ฝนออกเดินทางของเช้าวันเสาร์ประมาณ9โมงเช้า ชิวๆ คะ ไม่รีบ ^o^ ขับรถเรื่อยๆ เมื่อยก็แวะ
ถึงน่านก็ประมาณ 4-5โมงเย็น เข้าที่พักก่อนเลยจร้า ขออาบน้ำให้หายเหนื่อย แล้วเดวเราออกไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันนะ ^ ^
วันนี้ฝนจะพักที่นี่เลยคร้าาาา "เฮือนม่วนใจ๋" ที่พักน่ารักๆ แนวโฮมสเตย์ บ้านเรือนไม้ เก่าได้อารมณ์ ราคาก็น่ารักๆ 350บาท/คืน เอง เลิฟ ๆ
เนื้อที่กว้างขวาง มีสนามหญ้า ที่จอดรถเพียบ ไม่มีแอร์นะจ๊ะ อากาศที่นี่เย็นอยู่แล้ว
ห้องน้ำรวม สะอาดใช้ได้
เฮือนม่วนใจ๋
โฮมสเตย์สุดชิค
|
แผนที่ที่พักโฮมสเตย์เฮือนม่วนใจ๋ จ.น่าน |
เอาหละ..อาบน้ำเรียบร้อย หิวแล้ว..ไปหาไรทานกันดีฝ่าาาาาาาาาาาา
เย็นนี้เราเลือกที่จะทานเตี๋ยวร้อน ขับรถเข้าไปในเมืองแถวๆ ถนนสุมนเทวราช แถวๆ วัดหัวเวียงใต้
เตี๋ยวไร้เทียมทาน... เป็นก๋วยเตี๋ยวประมาณว่าต้มยำกระดูกหมู, กระดูกอ่อน อร่อยเหาะ!!! ^o^
ต่อด้วยขนมหวานๆ บัวลอยไอติม!! ร้านของหวานป้านิ่ม
อันนี้ก็...ฟิน ฝุด ฝุด
ร้านอยู่แยกเข้าเมือง ตรงข้ามวัดศรีพันต้น คะ อยู่ริมถนน หาง่าย
เมนูแนะนำ...นี่เลย>>>ไอติมบัวลอย สุดฟิน!!!
|
แผนที่ร้านขนมหวานป้านิ่ม แผนที่ร้านเตี๋ยวไร้เทียมทาน จ.น่าน |
สำหรับคืนนี้...อิ่มอร่อย พุงกางแล้ว และเพลียจากการเดินทางเล็กน้อย
ขอกลับที่พักเพื่อพักผ่อนเอาแรงก่อนล่ะกันนะจ๊ะ
แล้วพรุ่งนี้เราจะไปทำภาระกิจสำคัญสำหรับทริปนี้
>>>>สักการะพระธาตุประจำปีเกิดปีเถาะ คือพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน นี่เอง
^o^..................................^o^
เช้านี้...ตื่นเช้าหน่อยล่ะกันเน๊อะ (คือปกตินางตื่น 9โมง 10โมง เอิ๊ก..เอิ๊ก)
ไปเดินเล่นตลาด วิถีคนเมืองน่านนนนนน
ตลาดเช้าเมืองน่าน ตลาดสดตั้งจิตนุสรณ์อยู่ถนนตรงข้ามกับโรงแรมเทวราชและโรงแรมน่านฟ้า ตลาดเช้าเมืองน่านเป็นตลาดสดที่มีพ่อค้าแม่้ค้า วางของขายที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล มีทั้งพืชผักสดๆ จากสวน ผลไม้ หรือแม้แต่มีกับข้าวสำเร็จ ที่มีข้าวเหนียวร้อน จิ้นปิ้ง(หมูปิ้ง) ตับปิ้ง น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกตาแดง หรือโจ๊กร้อนๆพร้อมปาท่องโก๋ ตลาดเช้าเืมืองน่านเริ่มตั้งแต่เวลา 04.00 - 07.00 น.
กิจกรรม : ทำบุญใส่บาตรยามเช้า เดินชมตลาดเช้าของพื้นเมืองน่าน ชิมอาหารพื้นบ้านมื้อเช้าขอคนเมืองน่าน
อิ่มแล้ว..ไปต่อเลยจร้าาาาาาา>>>>> ทำภาระกิจสำคัญสำหรับทริปนี้
>>>>สักการะพระธาตุประจำปีเกิดปีเถาะ คือพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน นี่เอง
ตามความเชื่อเรื่องการไหว้พระธาตุพระจำปีเกิดของชาวล้านนา เชื่อว่าคนเกิดปีเถาะมีพระธาตุประจำปีเกิด คือ“พระธาตุแช่แห้ง” ตั้งอยู่ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน ซึ่งผู้ที่เกิดปีเถาะ อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตควรหาโอกาสไปกราบนมัสการพระธาตุแช่แห้งสักครั้ง เพื่อเป็นการเสริมบุญบารมีให้เกิดความเป็นสิริมงคลในชีวิต
|
วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน |
|
วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน พระธาตุประจำปีเกิดปีเถาะ |
|
ความเป็นมาของพระธาตุแช่แห้ง
“พระธาตุแช่แห้ง” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองน่าน ตามตำนานของพระธาตุองค์นี้กล่าวว่า เมื่อครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าได้เสด็จโปรดสัตว์มาถึงภูเพียงแช่แห้ง และพบกับพระอมละราชและพระมเหสีที่มาสรงน้ำที่เดียวกับพระองค์สรงน้ำอยู่ พระอมละราชได้ถวายผ้าขาวให้พระพุทธเจ้าใช้สรงน้ำ แต่ผ้านั้นกลายเป็นทองคำ พระอานนท์จึงขอพระเกศาธาตุบรรจุในกระบอกไม้ซาง มอบให้พระอินทร์นำไปเก็บในอุโมงค์พร้อมผ้าทอง โดยพระอินทร์ได้ก่อพระเจดีย์สูง 7 ศอกไว้ด้านบน
ต่อมาราวปีพ.ศ. 1896 สมัยพระยากานเมือง ได้ส่งช่างไปร่วมสร้างวัดหลวงที่สุโขทัย พระยาลือไทยจึงมอบพระธาตุ 7พระองค์ และพระพิมพ์คำ พระพิมพ์เงินอย่างละ 20 องค์ ให้พระยากานเมือง ซึ่งได้นำไปบรรจุไว้ที่ภูเพียง และพบพระเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุและพระธาตุข้อมือข้างซ้ายของพระพุทธเจ้า พระองค์จึงให้ทำอุโมงค์ประดิษฐานพระบรมธาตุใหม่ และก่อพระเจดีย์เป็น “พระธาตุแช่แห้ง” คู่เมืองน่านมาจนทุกวันนี้ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้คนมากราบสักการะกัน
ปริศนาธรรมคำว่า “แช่แห้ง”
หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าทำไมจึงชื่อว่า “พระธาตุแช่แห้ง” เพราะหากคิดตามความเป็นจริงคำว่าแช่ก็ควรจะต้องเปียก แต่แล้วทำไมจึงแห้ง ในเรื่องนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับหลักธรรม โดยอาจารย์สมเจตน์ วิมลเกษม ครูภูมิปัญญาไทย โรงเรียนสตรีศรีน่าน ได้อธิบายให้ฟังว่า คำว่า “แช่แห้ง” เป็นคำที่นักปราชญ์ยกย่องให้เป็นมงคลนามยิ่ง เป็นประหนึ่งกุญแจที่จะไขปริศนาธรรมทั้งมวลจนดิ่งลึกเข้าสู่แดน สุญญตา คือความว่างจากตัวตน อันเป็นสุดยอดของอมฤตธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า “แช่แห้ง” จึงมีความหมายโดยนัยว่า ยอดคนหรือมหาบุรุษเท่านั้นที่จะทำตัวให้แห้งอยู่ในสภาวะแห่งความเปียกปอนของอวิชชา ความมืดบอด แห่งสรรพกิเลศตัณหาต่างๆ ที่มากมายยิ่งกว่าสายน้ำและมหาสมุทรทั้งหลายในโลกรวมกัน มนุษย์จะสามารถมีความสุขท่ามกลางทะเลแห่งความทุกข์ยากอันหมายถึงมหาวัฏฏสงสารได้อย่างไร
|
แผนที่วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน |
|
ภาระกิจต่อไป >>>> วัดภูมินทร์
วัดภูมินทร์
เดิมชื่อ “วัดพรหมมินทร์” เป็นวัดหลวง ตั้งอยู่ในเขตพระนครดังปรากฏชื่อ ตำบลในเวียงในปัจจุบัน เจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2139 ต่อมาอีกประมาณ 300 ปี มีการบูรณะครั้งใหญ่ ในสมัยเจ้าอนันตวรฤทธิ์เดช เมื่อ พ.ศ.2410 (ปลายสมัยรัชกาลที่ 4) ใช้เวลาซ่อมแซมนานถึง 7 ปี
ความสวยแปลกของวัดภูมินทร์ ที่เป็นหนึ่งเดียว คือ เป็นวัดที่สร้างทรงจัตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาคขนาดใหญ่ 2 ตัว แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัว ตรงใจกลางพระอุโบสถจัตุรมุข ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันพรพักตร์ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศหันเบื้องปฤษฏาค์ชนกัน ประดับนั่งบนฐานซุกชี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
อาคารนี้เป็นทั้งพระอุโบสถ พระวิหาร และพระเจดีย์ในหลังเดียวกัน โดยใช้อาคารในแนว ตะวันออก-ตะวันตก เป็นพระวิหาร และอาคารแนว เหนือ-ใต้ เป็นพระอุโบสถ รัฐบาลไทยเคยพิมพ์รูปวัดภูมินทร์ ในธนบัตรใบละ 1 บาท ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง แสดงเรื่องราวชาดก วิถีชีวิตตำสนานพื้นบ้าน และความเป็นอยู่ของชาวน่านในอดีต ได้แก่ การแต่งกายคล้ายผ้าซิ่นลายน้ำไหล การท่อผ้าด้วยกี่ทอมือ การติดต่อซื้อขายกับชาวต่างชาติ สิ่งน่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ บานประตูแกะสลักลึกเป็น 3 ชั้น บนไม้สักทองแผ่นเดียวขนาดใหญ่ ความหนาของไม้ประมาณ 4 นิ้วสลักเป็นลวดลายเครือเถา ที่ทั้งดอกและมีผลระย้า รวมทั้งสัตว์นานาชนิด ฝีมือช่างเมืองน่าน
หอไตรวัดภูมินทร์ ลักษณะ สร้างขึ้นใหม่เลียนแบบของเดิม เมื่อ 5 มีนาคม 2537 อาคารสี่เหลียมทรงสูงสองชั้นก่ออิฐถือปูน มีบันใดภายในตัวอาคาร ชั้นบนมีระเบียง หลังคามีช่อฟ้าใบระกา
ภาพจิตรกรรมหรือ “ฮูบแต้ม” ในวัดภูมินทร์เป็น ชาดกในพุทธศาสนาแต่ถ้าพิจารณารายละเอียดของวิถีชีวิตของคนเมืองในสมัยนั้น มีภาพที่น่าสนใจอยู่หลายภาพ เช่น ภาพเด่น ของ ภาพปู่ม่าน ย่าม่าน ซึ่งเป็นคำเรียกผู้ชายผู้หญิงชาวไทลื้อในสมัยโบราณกระซิบสนทนากัน ผู้ชายสักหมึก ผู้หญิง แต่งกายไตลื้ออย่างเต็มยศ ภาพวาดของหนุ่มสาวคู่นี้มีความประณีตมาก ภาพนี้ได้รับการ ยกย่องว่าเป็นภาพที่งามเป็นเยี่ยมของวัดภูมินทร์ มีการใช้สีแดง ฟ้าดำ น้ำตาลเข้มเป็นปื้นใหญ่ๆคล้ายภาพสมัยใหม่ ของหนุ่มสาวไตลื้อกำลัง
คำกระซิบรัก ปู่ม่าน-ย่าม่าน
คำฮักน้องกูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว
จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาขะลุ้ม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป
ก็เลยเอาไว้ในอกในใจ๋ตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้
ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา...
คำแปล
“ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว
จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย
หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะเอาความรักของพี่ไป
เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง
ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น”
โรแมนติกจริงเชียว!!! ^o^
วัดพระธาตุช้างค้ำ
วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร เดิมเรียกว่า “วัดหลวงกลางเวียง” หรือ “วัดช้างค้ำ” อยู่ในเขตเทศบาลเมืองน่าน เลขที่ ๑๓ ถนนสุริยพงษ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2492 โดยพญาภูเข่ง เจ้าผู้ครองนครน่าน เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนา และพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาในอดีต
>>>>><<<<<
>>>>><<<<<
เริ่มหิวอีกแล้ว เที่ยงนี้หาอาหารเหนือๆ ทานกันดีกว่า
ร้านแซ่บยกกำลัง2
บรรยากาศร่มรื่นใช่ได้เลย!!!
อ่อมหมู!!!
ลาบหมูคั่ว!! แซ่บสุโค้ย
ชอบอันนี้ที่สุด.... ตำคะน้า!!! แซ่บฝุด ฝุด
เสร็จสิ้นภาระกิจทุกๆ อย่าง ที่เมืองน่านนี้แล้ว
สำหรับทริปนี้ ประทับใจสุดๆ
รักเมืองน่านเลยคะ
^ ^
ขอบคุณประเทศไทย